จากบทความก่อนหน้านี้ที่ได้พูดถึงประโยชน์ของการ ตรวจบ้าน กันมาแล้วนั้น ปัญหาและความเสี่ยงจากการที่ไม่ได้ ตรวจบ้านก่อนโอน ก็เป็นเรื่องที่เจ้าของบ้านมือใหม่ หรือกำลังจะเป็นเจ้าของบ้านควรรับรู้ รับทราบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเช่นกัน
การไม่ ตรวจบ้านก่อนโอน อาจทำให้เกิดปัญหาและความเสี่ยงต่างๆ ตามมาได้ ดังนี้
หากไม่ได้ทำการตรวจบ้านก่อนโอนผู้ซื้ออาจไม่ทราบถึงปัญหาต่างๆ ของบ้าน เช่น โครงสร้างบ้านไม่แข็งแรง หลังคารั่ว พื้นทรุด ผนังแตกร้าว ระบบไฟฟ้าหรือประปาชำรุด เป็นต้น หากปัญหาเหล่านี้รุนแรง อาจทำให้บ้านไม่สามารถอยู่อาศัยได้ หรือต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเป็นจำนวนมาก
ปัญหาที่พบบ่อย ได้แก่
หากผู้ซื้อพบปัญหาต่างๆ ของบ้านหลังจากโอนกรรมสิทธิแล้ว อาจไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ขายได้ (ในกรณีที่ไม่มีการรับประกัน) ในทางกลับกัน ก่อนที่จะโอนกรรมสิทธิได้มีการ ตรวจบ้าน จะทำผู้ซื้อจะมีอำนาจต่อรองที่มากกว่าสามารถแจ้งผู้ขายให้ดำเนินการซ่อมแซมจุดที่เสียหายให้เรียบร้อย ก่อนที่จะจ่ายเงินและรับโอนกรรมสิทธิ
หากพบว่าบ้านมีปัญหาต่างๆ หลังจากโอนกรรมสิทธิแล้ว อาจทำให้ผู้ซื้อไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ตามกำหนด หรืออาจต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการแก้ไขซ่อมแซม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ซื้อ
ยกตัวอย่างเช่น ได้ซื้อและโอนกรรมสิทธิบ้านในฤดูหนาวหรือฤดูร้อน ตัวบ้านและหลังคาอาจจะไม่เจอฝน ประกอบกับการที่ไม่ได้ตรวจบ้านก่อนโอน ทำให้ไม่ทราบว่าหลังคาอาจจะมีจุดที่รั่วอยู่ แต่เมื่อเข้าอยู่ไปสักระยะแล้วเจอฝนตกและพบปัญหาหลังคารั่ว อาจทำให้บ้านเปียกชื้น เฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านเสียหาย
จากปัญหาและความเสี่ยงที่กล่าวมาข้างต้น ได้ชี้ให้เห็นและย้ำถึงความสำคัญของการ ตรวจบ้าน จากผู้ รับตรวจบ้าน เป็นไปเพื่อความปลอดภัยและเพื่อประโยชน์ของผู้ซื้อเอง การ ตรวจรับบ้าน ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน การตรวจบ้านโดย บริษัทรับตรวจบ้าน มืออาชีพนั้นจะครอบคลุมทุกส่วนของบ้าน ตั้งแต่โครงสร้างภายนอกและภายใน หลังคา ผนัง พื้น ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่างๆ จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับบ้านที่มีคุณภาพและพร้อมเข้าอยู่ครับ